บทที่ 2 ออกัส
“อะไร”
“ช่วยตามหาเพื่อนหนูให้หน่อย” เพื่อนของเธอหายไปหลายวันอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน ไปหาที่ห้องเช่าก็ไม่เจอ
“ทำไมต้องหา แล้วเพื่อนหายไปไหน”
“ไม่รู้สิ วันก่อนมันบอกหนูว่าทำพาร์ทไทม์เสร็จจะรีบกลับ พอถึงวันสอบมันก็หายไป หนูพยายามติดต่อหลายครั้งแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้เลย”
“มีรูปมั้ย”
“เดี๋ยวนะ” หญิงสาวว่าพลางหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาเปิดภาพของเพื่อนสนิทแล้วส่งให้พี่ชายของเธอดู
ชายหนุ่มนิ่งไปเขารู้สึกชาไปทั้งตัว คนในภาพคือคน ๆ เดียวกันกับที่เขาตามหาอยู่เหมือนกัน แสดงว่าคืนนั้นที่เธอพยายามบอกเขาคือเรื่องจริง...
หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งอุ้มลูกชายที่กำลังหลับลงจากรถโดยสารที่พวกเขานั่งมาเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง หลังลงจากรถเธอมองไปรอบ ๆ สำรวจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมาย นานเกือบ 6 ปีแล้วที่เธอไม่มาเหยียบที่นี่ ตั้งแต่เธอตัดสินใจจากไปเธอก็ไม่คิดที่จะกลับมาอีกเลย
แต่ตอนนี้มีเหตุจำเป็นบางอย่างที่เธอตัดสินใจกลับมา เธอจะหนีไม่ได้อีก เวลาเกือบ 6 ปีที่ผ่านมาใครคนนั้นคงลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้นเธอสามารถกลับมาใช้ชีวิตในเมืองนี้โดยไม่ต้องกลัวว่าเขาจะจำเธอได้ เพราะตอนนี้แม้แต่หน้าตาของเขาก็เลือนลางไปจากความทรงจำของเธอแล้วเช่นกัน
บริษัทที่เธอสมัครงานไว้มีสาขาใหญ่อยู่ที่นี่ เธอจึงถูกเรียกให้มาสัมภาษณ์ และนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เธอเลยไม่ลังเลที่จะมาที่นี่
ใบเฟิร์น สาวสวยวัย 25 ปี เธอเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพราะเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนั้นทำให้เธอต้องออกจากมหาวิทยาลัย แล้วลงเรียนปีหนึ่งใหม่ในมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีค่าเทอมไม่แพงมากนัก ชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้ราบเรียบ ยิ่งเธอมีลูกน้อยตั้งแต่ยังเรียนอยู่ยิ่งต้องขยันเพิ่มขึ้น
ปึก!!
“ขอโทษค่ะ”
ขณะที่ใบเฟิร์นกำลังจะเดินออกจากตรงนั้น เธอก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนกระเป๋าในมือตกลงไป
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มตอบพลางก้มเก็บกระเป๋าก่อนจะปัดเศษดินออกแล้วส่งให้ใบเฟิร์น
“ขอบคุณนะคะ” เธอรับไปพลางมองหน้าเขา แต่แล้วก็นิ่งไปก่อนจะทำทีหันไปทางอื่น
“ใช่น้องเฟิร์นหรือเปล่า” เขาเองก็จำเธอได้ลาง ๆ จึงเอ่ยถามออกไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่
“เอ่อ...” ใบเฟิร์นเองก็อ้ำอึ้งที่จะตอบ เพราะเธอยังไม่อยากเจอใครในตอนนี้ จริง ๆ แล้ว เธอไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใครมากกว่าว่าเธอหายไปไหน
“จำพี่ได้มั้ย” เขาเอามือทาบอก
“หะ...เอ่อ...จำได้ค่ะ” ในเมื่อมั่นใจว่าชายหนุ่มจำเธอได้ เธอก็ไม่กล้าปฏิเสธ
“หม่าม๊าฮะ” เด็กน้อยได้ยินเสียงเหมือนแม่ของเขาคุยกับใครจึงค่อย ๆ ลืมตา พยายามหรี่ตามองชายหนุ่มที่กำลังคุยกับแม่ของเขา
“หืม...” เธอขานรับลูกชายเบา ๆ พลางเอามือลูบหลังเบา ๆ หวังให้ลูกชายหลับต่อ
“ละ...ลูกของน้องเฟิร์นเหรอ” เขาถามออกไปทันที
“ใช่ค่ะ” ใบเฟิร์นเองก็ตอบโดยไม่ลังเล เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะปิดบัง
“หม่าม๊าฮะ” เด็กน้อยเรียกอีกครั้ง
“ว่าไงคะ”
“กัสหิว ท้องกัสร้องจนปวดไปหมดแล้วฮะ” เด็กน้อยเอามือลูบท้องน้อย ๆ ของตัวเอง จนผู้เป็นแม่มองด้วยความเอ็นดู
ออกัส เด็กน้อยวัยสี่ขวบกว่า เขามีผมสีดำขลับ ใบหน้ากลมผิวขาว ดวงตากลมโตนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ผู้เป็นแม่ไม่ค่อยชอบมอง เพราะทุกครั้งที่มองเข้าไปในดวงตาคู่กลมสีนิลนั้น มันทำให้เธอหวนคิดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่มอบคืนวันอันโหดร้ายให้เธอ
“หม่าม๊าขอโทษนะ เดี๋ยวหม่าม๊าจะหาอะไรอร่อย ๆ ให้ออกัสกินนะครับ” เธอบอกลูกชาย “ขอตัวก่อนนะคะ”
ใบเฟิร์นปลีกตัวออกไปทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนมองสองแม่ลูกไปจนสุดสายตา แม้เขาจะเป็นรุ่นพี่ที่เคยสนิทกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องราวเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะสนิทกับใครได้
ใบเฟิร์นเดินทางมาถึงก่อนวันสัมภาษณ์หนึ่งอาทิตย์ เธอพาลูกชายมาหาบ้านเช่าที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก พร้อมทั้งหาโรงเรียนให้ลูกชาย เธอวางแผนไว้ว่าตอนเช้าเธอจะแวะส่งลูกชายที่โรงเรียน แล้วก็ไปทำงาน ตอนเย็นก็แวะรับแล้วกลับพร้อมกัน
หลังพาลูกชายไปทานข้าว เธอก็นั่งรถต่อไปหาบ้านเช่าต่อ ใบเฟิร์นได้บ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ ค่าเช่าราคาถูกสามารถช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้พอสมควร ระหว่างที่เธอได้เข้าทำงานและมีเงินเดือนเธอค่อยขยับขยายและซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ สักหลังไว้อยู่กันสองคนแม่ลูก
“หม่าม๊าฮะ” เด็กน้อยวิ่งมากอดแม่ของเขาจากด้านหลัง “ให้กัสช่วยมั้ยฮะ”
“เอาชุดของกัสไปแขวนที่ราวตรงนั้นนะ” เธอพูดพลางชี้ไปทางราวเหล็กที่วางอยู่ไม่ไกลมากนัก
“ฮะ” ออกัสทำตามที่แม่ของเขาบอกทันที
“แขวนผ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวหม่าม๊าพาไปดูโรงเรียนใหม่นะคะ”
“เย้...” ออกัสดีใจที่ได้ยินแม่ของเขาบอกแบบนั้น เขารีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อนจะได้นำผ้าไปแขวนให้หมดไว ๆ
